คราวนี้คนข้างล่างที่มักพูดน้อย .. ไม่ตอบ
ก้มหน้าหันไปมองทางอื่น ก่อนจะหันกลับมาอธิบายให้ เธอฟังถึงเหตุผล
"ก็ไม่เชิงหรอกค่ะ ความจริงอาก็ออกมาเดินสำรวจอะไร ด้วยนิดหน่อย เพราะได้ยินว่า security กะบ่ายที่รับผิดชอบ เดินตรวจแถว ๆ นี้ป่วยอยู่คนหนึ่ง อามาเห็นว่ามีคนป่วยจริง ก็ เลยอนุญาตให้เขากลับไปพักเร็วกว่าเวลา แต่เพราะวันนี้เราหา คนมาสำรองแทนไม่ทันน่ะ .. ส่วนอาเองก็พักอยู่ใกล้ ๆ นี้อยู่ อีกอย่างหนึ่งอาเป็นคนนอนดึก อีกแค่ไม่กี่ชั่วโมง ประเดี๋ยว กะดึกเค้าก็จะมาต่อเวรกันแล้ว ดังนั้นช่วงเวลาที่ขาดคนตอนนี้ อาเลยแวะมาเดินดูแทนให้ไปพลาง ๆ ก่อนค่ะ"
เสียงกิ๊ก ๆ .. กึกกักแต่ใส ๆ .. เบา ๆ ที่มีต้นเสียงมาจาก หญิงสาวในชุดคลุมไหมสีครีม ทำเอาคนที่อิงจันทร์จำหน่ายว่า หน้าเคร่งเครียด ขรึม ดุ อยู่เป็นนิจ..สงสัย
"อ้าว!! .. ขำอะไรอากันละคะนี่?"
เสียงทุ้มไถ่ถามเหมือนจะผ่อนคลาย .. อารมณ์ดีตามไป ด้วย
"คุณพ่อต้องจ้างอาทิมมาแพง..มากกกกก..แน่ ๆ เลยค่ะ เพราะคุณอาเล่นกวาดรับหน้าที่มามากมายซะขนาดนี้ เป็นถึง ผู้บริหารวางแผนจัดระบบระเบียบ ยัน รปภ. กันเลยเชียวหรือ"
"ไม่หรอก นี่มันไม่ใช่เรื่องค่าจ้างรางวัลอะไรกันหรอกคะ และมันก็ไม่ใช่หน้าที่ของอาจากการจ้าง แต่มันเป็นความรับผิด ชอบที่อาต้องทำให้กับพี่ชายของอาน่ะ .. พี่ภูกับคุณตะวันก็น่า จะเล่าให้คุณอิงค์ในเรื่องนี้แล้ว"
อิงจันทร์รู้ว่าที่เขาพูดมา มันมีความหมายที่ลึกซึ้งกว่านั้น และเธอก็เข้าใจมันได้โดยง่ายอยู่แล้ว
"ค่ะ เล่าแล้วค่ะ คุณอิงค์แค่อำคุณอาเล่นขำ ๆ เองอ่ะ อาทิมโกรธอีกแล้วหรือคะ?"
"ไม่นี่คะ .. ทำไมคุณอิงค์คิดว่าอาต้องโกรธ?"
เขายังคงนิ่ง ..
มองขึ้นมา..สบตาใสกระจ่างของร่างบางที่ก้มมองลงไป
หนุ่มสาวทั้งสอง .. คงเกือบเผลอหลงลืมเวลา
เพราะต่างคนต่างนิ่งงัน..สบตากันและกันอยู่เป็นครู่ใหญ่
ท่ามกลางเสียงเพลงของเรไรป่าที่ขับกล่อม..เคล้า ฝาก ลมหนาวมาเบา ๆ กับหมู่ดาวพร่างฟ้า
ก่อนที่อิงจันทร์นั่นแหละ ..จะสะบัดหลุด.. จากห้วงมนต์ เสน่ห์อันแผ่วเบานั้น..ออกมาได้ก่อน..ก่อนอ้อมแอ้ม ๆ ค้นหา เสียงของตัวเองเจอจนได้
"อากาศเริ่มเย็นน้ำค้างแล้วค่ะ ตากน้ำค้างมากไปจะไม่ สบาย แล้วอีกอย่างคงมีคนมาเปลี่ยนเวรแล้ว อาทิมกลับเข้าไป นอนเถิดค่ะ ส่วนคุณอิงค์ก็ว่าจะเข้านอนแล้วเหมือนกัน"
"ค่ะ อาก็คิดว่ากำลังจะบอกเช่นนั้น"
เสียงทุ้มแผ่วแปลก ๆ
"งั้นก็..ราตรีสวัสดิ์..นะคะ"
คนกล่าว..กล่าวคำอำลาเสร็จก็ลดหน้า ก้าวเท้าเดินกลับ เข้าสู่มุมมืดของหมู่ไม้หมู่เดิม ก่อนพาเงาร่างห่างออกไปยังทาง ที่อิงจันทร์ทราบว่าเป็นทางลัดเดินกลับสู่เคบินของเขานั่นละ
เจ้าของร่างบางระหงแตะปุ่มรีโมทปิดไฟเหนือเตียง
ทอดกายลงนอนพลิกตะแคง
แต่แล้วจู่ ๆ ก็เผลอยิ้มให้กับตัวเองเสียได้
แน๊ะ? ... เป็นไข้อะไรไปแล้วหรือเปล่าเล่าเธอนี่?
บ่นตนเองเพราะรู้สึกว่าแก้มร้อนวูบ ๆ ราวกับคนมีไข้
เช้าตรู่ ณ ตลาดใหญ่ใจกลางเมืองเชียงใหม่
ทิมโมธี่ ที่บัดนี้ได้ถกแขนเสื้อแจ็คเก็ตหนังเนื้อบางชั้นดี ขึ้นมาถึงต้นแขนแกร่ง .. สองมือเต็มไปด้วยถุงหูหิ้วพะรุงพะรัง เดินติดตามมาด้วยสาวสวยร่างบอบบาง ที่ใบหน้าแดงก่ำเพราะ ความเหนื่อยอ่อนจากการที่ต้องเดินตระเวนหาซื้อขนม ซื้อของ เล่นเด็ก หนังสือนิทาน เสื้อผ้าเด็กชายหญิงบางชุด แถมด้วย รองเท้าใส่เล่นสำหรับเด็ก ๆ อีกหลายคู่หลายขนาด และข้าว ของส่วนใหญ่ก็อยู่ในมือของฝรั่งร่างสูง ที่ยังคงก้าวยาวอย่าง กะฉับกระเฉง
ไม่มีบ่นว่าสักคำ .. แม้ในขณะที่ต้องเดินตระเวณตามรับ ตามเก็บสิ่งของที่หญิงสาวจับจ่ายซื้อมา ทั้ง ๆ ที่มิใช่ธุระของ ตนเองแม้สักนิด
อิงจันทร์ แม้จะเหนื่อยมากจากการเดินตระเวณซื้อของ ในสถานที่ที่ไม่ค่อยคุ้นเคยนัก เพราะนาน ๆ ปีจะแวะมาสักที หนึ่ง อดยิ้มส่งไปยังเบื้องหลังแข็งแกร่งของอาหนุ่มเท่ ๆ คนนี้มิ ได้
บางที..การเป็นผู้ชายที่ไม่พูดมาก แต่การกระทำที่แสดง ออกมาว่าเป็นสุภาพบุรุษทุกกระเบียดนิ้ว .. นี่ก็ ..
แลดูจะเป็นผู้ชายที่น่ารักชะมัด!
ข้าวของจากถุงที่เขาหิ้วเหล่านี้ต้องถือว่าเป็นการไปช่วย เธอหิ้วมาเก็บใส่ไว้ในรถเป็นรอบที่สามได้แล้วสินะ เพราะบัดนี้ ตอนนี้เจ้าสิ่งของมากมายเหล่านั้น ได้ถูกจัดวางจนอัดแน่นแต่ เป็นระเบียบเรียบร้อย เต็มเอียด...อยู่ในส่วนพื้นที่ด้านหลังของ ชั้นโดยสารบนรถขับเคลื่อนสี่ล้อ .. ที่ไว้ใช้เป็นพาหนะสำหรับ เดินทางตระเวณสำรวจพื้นที่ ที่ไวซ์เพรสซิเด้นคนนี้หมายตาไว้ รถ..ถูกจัดเตรียมโดยผู้จัดการโรมแรมของสาขาในเชียงใหม่นี้ นั่นแหล่ะ
สาวน้อยเอ่ยขอบคุณเขาเบา ๆ สำหรับมารยาทที่ผู้เป็น อายังยืนรอเพื่อคอยที่จะเปิดและปิดประตูให้ หลังจากที่เธอ ขึ้นไปนั่งเรียบร้อย .. ก่อนเดินอ้อมกลับมาประจำที่ยังฝั่งคนขับ
แต่อันเนื่องจากเป็นเพราะเมื่อเช้านี้ ที่ทั้งสองต้องรีบออก เดินทางจากโรงแรมที่พักเร็วมาก จนทั้งคู่ไม่ทันอยู่รับประทาน อาหารเช้าของโรงแรม ..
มันเป็นความผิดของอิงจันทร์ นั่นเพราะเมื่อคืนเธอเพิ่ง จะนึกได้ว่าควรถือโอกาสนี้แวะซื้อของ เพื่อจะนำไปบริจาคให้ แก่เด็ก ๆ ชาวเขา ที่หากบังเอิญผ่านไปเจอโรงเรียนทุรกันดาน ตามเส้นทางจะได้หยุดแวะบริจาคได้เลย
เธอเพิ่งบอกแก่เขาเมื่อคืน ระหว่างรับประทานอาหารค่ำ ก็เป็นทำนองปรึกษาเขานั่นแหละ และเขาก็ไม่ควรปฏิเสธเธอ .. ใช่เปล่าล่ะ?
ทิมโมธี่ ก็ไม่ให้ความเห็นอะไรในเรื่องนี้นอกจากจะพยัก หน้ารับรู้ ก่อนเอ่ยกำหนดเวลามาว่าให้ออกจากโรงแรมสักตีห้า เพื่อแวะตลาดจะทันไหม เพราะถึงอย่างไรเขาก็อยากออกเดิน ทางกันแต่เช้าตรู่ เพราะในช่วงนี้ มันยังมิได้เข้าสู่ฤดูหนาวที่ชัด เจน ซึ่งทั้งคู่ย่อมมีโอกาสเจอฝนเปลี่ยนฤดูได้อยู่แล้วล่ะ
และไม่ว่าจะอย่างไรเขาก็อยากเดินทางไป-กลับ แม่แจ่ม เชียงใหม่ให้ได้ภายในวันเดียวกันให้ทัน
อิงจันทร์พยักหน้ารับ .. ก่อนเซย์กู๊ดไนท์ให้เขา
ร่างเล็กบอบบาง ก้มหน้าตาสาละวนอยู่กับถุงกระดาษสี น้ำตาลติดตราประทับยี่ห้อร้านอาหารฟาสฟูดราคาแพง .. ที่มา เปิดให้บริการกันตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง เพราะเชียงใหม่..ถือเป็น อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่คนนิยมมาก มันจึงทันสมัยเทียบเท่า กรุงเทพฯแล้วนั่นเอง และเธอที่ต้องมาตระเวนซื้อเขาทาน .. ไม่ ได้สั่งจากบริการของโรงแรมที่เธอพัก เพราะไม่อยากทำความ วุ่นวาย..ไปเพิ่มงานให้กับเซฟและพนักงานรอบเช้าที่ต้อง ..เอิ่ม
ทำไมเธอไม่มีทางรับรู้ในค่ำนั้นว่า ช่วงนี้ทางโรงแรม สาขานี้..มีกรุ๊ฟทัวร์เอเซียหลายกรุ๊ฟมาลง .. จนล้งเล้ง ๆ กันไป หมดเลยเชียว!!
มือนวลขาวหยิบยื่นแซนวิซส่งให้เขา..กับแก้วกาแฟหอม กรุ่นมาให้เขาเลือกว่าจะต้องการทานอันไหนก่อน
คนขับรถ .. ปรายตามามองอาหารในมือเธอแว่บหนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าให้ .. แต่กลับไม่ยอมเอื้อมมือออกมารับมันไป จากเธอ .. แถมยังทำหน้านิ่ง ๆ เฉย ๆ ใส่เสียอีกแหน่ะ!! ..
**********
ต้องการอ่านนิยายเล่มนี้เต็มเนื้อเรื่อง
หรือใช้คำค้นว่า
แตะรับ Link เพื่อโหลดเล่มเต็มได้ที่รูปภาพนะคะ สู้ๆ
คลิกไปอ่านนิยายทุกตอนได้ตรงนี้

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น