วันเสาร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2560

🌸 อิงจันทร์ไว้โอบใจ : บทที่ 5 (2)

จะขอนำมาลงเป็นตัวอย่าง 50% นะคะ 
นิยายแต่งจบแล้วค่ะ โหลด eBook ได้เลยนะคะ
บทที่ 5 (2)

          ภาพของภูเขากับสายหมอกขาว..ที่ค่อย ๆ ลอยอ้อยอิ่ง ขึ้นไปบรรจบกับก้อนเมฆที่ดูคล้าย ๆ จะเอื้อมมือ..ขึ้นไปจับได้ ตรงหน้า ทำให้อิงจันทร์ที่กำลังอิงตัวทิ้งน้ำหนักไว้บนไหล่บาง อดไม่ได้..ที่จะแหงนเงยหน้าขึ้นสูดดมความสดชื่น ของอากาศ ยามเช้า ท่ามกลางการโอบล้อมของทะเลภูเขา อมยิ้มพอใจกับ ภาพงดงามราวกับว่าเมืองนี้ทั้งเมือง ถูกแปะประดับเต็มไปด้วย วอลเปเปอร์ของวิวแห่งทุ่งเทือกเขาอันเขียวขจี ที่มีสีไล่ระดับ อ่อนแก่ ดุจเดียวกับภาพวาดของจิตกรฝีมือเอกแท้ ๆ เทียว
          สามวันมาแล้วสินะ ที่เธอเดินทางมาถึงหนึ่งในโรงแรม ของเครือสาขาในครอบครัวภูผาคอยตะวัน แต่นับว่าที่นี่..เป็น เมืองท่องเที่ยวที่สงบเงียบเชียบชะมัดเลยสิ เพราะที่นี่ดูเหมือน จะมีก็แต่ลูกค้าชาวต่างชาติเท่านั้นล่ะกระมัง ที่นิยมมาพักที่นี่ และส่วนใหญ่ก็มาจากทัวร์ยุโรปทั้งนั้น 
          อิงจันทร์ทราบมาว่าสาขาอื่นๆ ที่เดินทางง่ายและสะดวก กว่า ส่วนใหญ่มักจะได้ต้อนรับกรุ๊ฟทัวร์จีนซะเสียเป็นส่วนมาก แต่โชคดีที่ดูเหมือน Vice President กิติมศักดิ์ของครอบครัว เธอคนนี้ มักจะจีบได้แต่ตลาดเอเจ่นซี่ที่นำมาแต่ชาวยุโรปซะ ส่วนใหญ่น่ะสิ ซึ่งแม้ดูมันอาจจะมีสัดส่วนการเข้าพักที่น้อยกว่า กรุ๊ฟเอเซีย แต่พูดได้เลยว่า กรุ๊ฟยุโรปมักกลับจะเรียกเงินจาก คณะทัวร์มาเข้ากระเป๋าได้งดงามมากกว่ากรุ๊ฟจีน สองถึงสาม เท่าตัว แถมห้องพักก็ยังไม่ช้ำมาก เพราะชาวยุโรปส่วนใหญ่ มักมีมารยาทในการใช้ห้องมากกว่าชาวเอเซีย อีกทั้งการทริป พนักงานก็ให้ดีกว่า แถมพนักงานหัวก็ไม่หมุน..วิ่งวุ่นวายบริการ เท่ากับที่ต้องวิ่งต้อนรับกรุ๊ฟทัวร์จากเอเซีย หรืออินเดียอยู่เป็น ไหน ๆ
          วันนี้อิงจันทร์ตัดสินใจที่จะไปเริ่มงานที่บริษัทฯออกแบบ ให้มารดา เพราะก่อนหน้า .. เธอต้องเสียเวลาปรับตัวให้ชินกับ หลาย ๆ อย่างที่นี่ให้ได้เสียก่อน โดยมีคุณอาจอมเย็นชามา คอยเป็นพี่เลี้ยง ...ที่...เอิ่มมมมม... o////o"
          พูดเลยนะว่า .. ตั้งแต่เจอกันนี่ ..
          เธอกับเขา ยังพูดคุยกันได้ไม่เคยถึงสิบประโยคต่อวัน กันเลยซะด้วยซ้ำ!!
          อิงจันทร์ที่ปกติก็มักจะเป็นคนแจ่มใสขี้เล่น แต่พอต้อง มาเจอใบหน้าขรึม ๆ เย็น ๆ ของคุณอาคนนี้เข้าทีไร ..เธอก็เกิด อาการเซโรงัง ... วังเวง ... และหมดอารมณ์คุยไปเสียทุกที!!
          ยังจำได้นะในเช้าวันแรกของทีนี้น่ะ
          เช้านั้น อิงจันทร์จำได้ว่าพาตัวเองออกไปเดินเล่นในสวน ที่จำเป็นต้องเดินเลยลัดผ่านไปยังด้านหลังชายเขา หลังบ้าน พักหลังใหญ่ที่เธอมักจะนิยมไปเดินเล่นทุกครั้งที่ต้องมาพักที่นี่ กับครอบครัวในบางปี 
          เจ้าสวนที่ว่ามานี้ มันตั้งอยู่เยื้องกับบ้านพักหลังใหญ่หลัง นี่ ที่ตอนนี้เธอจับจองครอบครองอยู่นั่นแหละ และภายในสวน แห่งเดียวกัน หากเดินเลยออกไปไม่ไกลกัน ก็จะมีเนินหญ้าที่มี แอ่งน้ำตกเล็ก ๆ ไหลผ่าน ก่อนจะเป็นทุ่งหญ้าโล่งเตียนเล็ก ๆ อีกเช่นกันขั้นอยู่ สุดท้าย..จึงจะไปบรรจบกับชายเทือกเขาสูง ทมึน .. แต่เช้านั้นสิ่งที่ทำให้อิงจันทร์ต้องแปลกใจ 
          เพราะตอนนี้ที่ว่างตรงนั้นกลับปรากฏมีเคบินหลังกระจิ๋ว ตั้งซุกตัวอยู่ใต้เงาร่มไม้ใต้แนวป่าแถว ๆ นั้น คงเพื่ออาศัยใช้ หมู่ไม้กำบังแดดและส่งความร่มเงาให้อีกชั้นหนึ่ง 
          แต่ความกระจิ๋วหลิวของมันต้องดูหลอกตาแน่ ๆ เพราะ เธอคาดคะเนดูแล้วว่าเคบินนี้อาจกว้างเท่า ๆ หรือพอ ๆ กันกับ ขนาดของตู้คอนเทนเนอร์สักหนึ่งตู้ครึ่งได้เป็นอย่างน้อยนั่นล่ะ 
          ภายนอกของเคบินเล็ก ๆ นั่นถูกกรุด้วยสังกะสีขึ้นสนิม เกรอะ แต่ในสายตานักออกแบบ .. ดูก็รู้ว่านี่เป็นการจงใจทำให้ มันเกิดขึ้น..เพื่อให้มันและดูเป็นงานศิลปะแบบดิบ ๆ เลียนแบบ คาราวานของชาวยิปซีแต่ตกแต่งให้ดูเป็นไปในสไตล์เวสเทิร์น คาวบอยหรือคันทรี่ได้อย่างลงตัวและมีรสนิยมที่.. เนี๊ยบ เนียน เรียบง่าย แต่เลิศหรูที่ซุกซ่อนตัวอยู่ในความสงบ .. สมถะ
          และอิงจันทร์นึกถูกใจเคบินที่ว่านั้นมาก ๆ 
          มากเสียจนอดใจไว้ไม่ได้ ต้องพาเท้าแวะไปวนเวียนดู ใกล้ ๆ จนได้นั่นแหละ
          ตอนแรกเธอเดาว่ามันคงเป็นเคบินที่อากวินเป็นคนสร้าง ขึ้นมาไว้ชั่วคราว ..อาจให้หัวหน้าคนงานพัก..หรืออะไรคล้าย ๆ อย่างนั้นนั่นแหละ
          คงเป็นเพราะคนภายในจะได้ยินเสียงกระดิ่งข้อเท้าที่ดัง กรุ๋งกริ๋ง ๆ ของเธอก็ได้กระมัง? 
          เพราะพอประตูเคบินค่อย ๆ แง้มเปิดกว้าง .. พร้อม ๆ กับ เงาร่างสูง ๆ ก็กระจ่างต่อสายตา ..
          สาวน้อยร่างบางถึงกับชะงักค้าง งง ๆ
          'เขา' ... เข้าไปทำอะไรอยู่ในนั้นน่ะ?
          "อรุณสวัสดิ์" 
          ต้นเสียงขรึม ๆ ดังขึ้นก่อนที่ร่างสูงเจ้าของดวงตาสีควัน ที่มีเสน่ห์ล้ำลึก..กล่าวทักทายเธอออกมาเป็นภาษาอังกฤษ .. ที่ สาวน้อยต้องยอมรับกับตัวเองให้ได้ล่ะว่า .. เธอก็ชอบฟังเสียง ของเขาชะมัด!!
          "อรุณสวัสดิ์ค่ะอาทิมโมธี่"
          เธอทักตอบ ..ก่อนจะกลับมาคุยภาษาฝรั่งเศสกันกับเขา อย่างที่เคยถนัด
          "อาทิมพักอยู่ที่นี่หรือคะ?"
          คำตอบของเขาก็เป็นเพียงแค่การมองนิ่ง ตรงมาเท่านั้น จนอิงจันทร์ก็ชักขุ่น ๆ .. 
          ทำไมดูเหมือนการพูดจากับเขา ก็ดูเหมือนช่างเป็นเรื่อง ยากเย็นอย่างนี้นะ!! .. 
          อย่างขัดใจ ..เธอรู้แน่ว่าเขาได้ยินคำถามที่เธอถาม.. แต่ แค่การตอบง่าย ๆ ว่า ..ค่ะ..อาพักที่นี่.. หรือไม่ก็ ..เปล่าค่ะ..อา แค่มาเดินตรวจบริเวณ..ก็ว่ากันไปสิคะ.. ตอบเธอมาแค่นี้ มันจะ ทำให้น้ำลายไหลไปติดคอเขาตายหรืออย่างไรกัน?!!
          อิงจันทร์นึกฉุน ก่อนชักสีหน้าว่าไม่พอใจอย่างที่ไม่ต้อง จะกลัวเสียมารยาทกันเลยทีเดียว ..
          ก็แหม่!! เขาเองก็แสดงกิริยาน่าเบื่อมาซะขนาดนี้ จะให้ เธอฝืนทนได้อย่างไรไหว .. คิดอย่างนั้นแล้ว จึงได้เดินเลยผ่าน ร่างสูงใหญ่ไปทางธารน้ำตกเล็ก ๆ ที่หมายใจเอาไว้เสียเลย 
          เกลียดชะมัด!! ผู้ชายที่พูดอะไรน้อย ๆ นี่ บางทีก็คิดว่า ไม่รู้จะเกิดมามีปากเอาไว้ทำไม!! ถ้าไม่อยากจะพูด ทีหลังก็รีบ บอกกับท่านยมบาลเขาซะเลยสิว่า ผมขอเกิดมาเป็นใบ้นะครับ เพราะผมน่ะ ไม่ค่อยอยากจะพูดอยากจะคุยกะใครสักเท่าไร!!
          แต่ผู้ชายคนนี้ ..ก็ค่อนข้างทำให้เธอรู้สึกประหลาดใจได้ หลาย ๆ อย่างอยู่เสมอเลยแฮะ 
          ตัวอย่างเช่น .. รสนิยมประหลาด ๆ ของเขาน่ะ 
          ไม่น่าเชื่อว่าผู้ชายเลิศหรู ที่แต่งตัวเนี๊ยบเรียบกริ๊บตั้งแต่ เส้นผม..ยันปลายรองเท้าขัดมันวับ ที่นั่งเครื่องชั้น 'เฟิร์สคลาส พรีเมี่ยม' บนสายการบินที่ขึ้นชื่อว่าตั๋วแพงระยับ แถมเธอกับ เขายังได้นั่งเครื่องบินเล็กเช่าเหมาลำของเอกชน .. เพื่อบินตรง มาลงเมืองนี้โดยตรงเลยน่ะหรือ .. จะมาพักอาศัย..นอนอยู่ใน เคบินกรุสังกะสีสนิมเกรอะกรังหลังจิ๋ว ๆ หลังนั้นได้!?!
          ที่เธอรู้ว่าเขานอนพักที่นั้น .. ก็เพราะแม่บ้านของเธอเป็น คนมาบอกเล่าให้เธอฟังที่หลังอีกนั่นแหละ
          อิงจันทร์อดไม่ได้ .. ที่จะนึกย้อนไปยังช่วงเวลาเดินทาง ระหว่างกลับมาจากฝรั่งเศสด้วยกันกับเขา      
          อดไม่ได้อีกเช่นกัน ที่จะนึกทึ่งและสงสัยในพฤติกรรม การใช้จ่ายแบบฟุ่มเฟือยเกินกว่าฐานะของเขาแล้วครุ่นคิด .. วันนั้น คุณอาผู้อบอุ่นและน่ารักของเธอคงตั้งใจเลือกจองที่นั่ง สองที่บนเครื่องเป็นชั้น 'เฟิร์สคลาสพรีเมี่ยม' ไว้สำหรับการ เดินทางครั้งนั้น ซึ่งก็เดาได้ไม่ยากนักหรอกว่าในวันนั้นมันก็คง มีแค่เขากับเธอเท่านั้นเองกระมั้ง ที่เป็นผู้ได้ใช้บริการกันเพียง ลำพัง  เธอร้องถามคุณอาหนุ่มด้วยความสงสัยว่าทำไม แต่เขา ก็กลับตอบมาง่ายดายด้วยใบหน้าและสายตาเรียบเฉยว่า ทาง สายการบินทำการอัพเกรดที่นั่งให้ 
          แต่เธอไม่คิดที่จะเชื่อเขาในเรื่องนี้หรอก!! 
          แม้โดยปกติ เวลาเธอต้องเดินทางกับครอบครัว หรือเดิน ทางลำพังกันกับร้อยตะวัน เธอก็มักจะเลือกที่นั่งชั้นเฟริสคลาส กันอยู่แล้วเป็นปกติ 
          แต่มันเป็นแค่ชั้นเฟิร์สคลาสระดับปกติธรรมดา ๆ นะคะ
          ไม่ใช่เฟิร์สคลาสพรีเมี่ยมที่มีค่าใข้จ่ายสูงสุดขนาดนี้!!
**********
ต้องการอ่านนิยายเล่มนี้เต็มเนื้อเรื่อง
หรือใช้คำค้นว่า
 อิงจันทร์ไว้โอบใจ - Mebmarket 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

🌸 อิงจันทร์ไว้โอบใจ : บทที่ 15 (2)

จะขอนำมาลงเป็นตัวอย่าง 50% นะคะ  นิยายแต่งจบแล้วค่ะ  โหล...